วิธีการพูดนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ

วิธีการพูดนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษนั้น หากผู้พรีเซ็นท์เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาที่ดีอยู่แล้ว ก็สามารถทำได้ง่ายกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องเตรียมการอะไรเลย เพราะนอกจากข้อมูลที่ต้องตระเตรียมให้พร้อมแล้ว การเรียงลำดับเนื้อหาก่อนหลังและการเตรียมสไลด์แล้ว ผู้พรีเซ็นท์จะต้องเตรียมประโยคคำพูดให้พูดได้อย่างกระชับได้ใจความ ไม่วกวนสับสน ส่วนผู้ที่ภาษาอังกฤษไม่แตกฉาน ต้องเตรียมตัวกันถึงระดับประโยคแต่ประโยค แต่การนำเสนอนั้นไม่ควรให้เกิดจากการท่องจำ แต่พยายามให้เกิดจากการอธิบายจากความเข้าใจ โดยเราเตรียมประโยคภาษาอังกฤษไว้ก่อน อาจจะง่ายกว่ามาก

                ไม่ว่าผู้นำเสนองานจะเก่งหรือไม่เก่งอังกฤษ สิ่งหนึ่งที่ต้องมีติดตัวไว้ในมือคือใบโพย การถือคลิปบอร์ดขนาด A4 ใหญ่เทอะทะอาจทำให้เราดูตลกได้ ผู้พรีเซ็นท์ควรเตรียมกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือเรียกว่ากระดาษการ์ด โน้ตหัวข้อพรีเซ็นท์โดยเรียงลำดับเนื้อหาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งในแต่ละหัวข้อ เราอาจบันทึกประโยคสำคัญ รวมไปถึงประโยคขึ้นต้นได้ เช่น

หัวข้อ  –> Differentiation

ขึ้นต้นประโยค –> It is the most use in marketing strategy for our team and what we used to differentiated ourselves over the other brands is “Style”.

ตัวอย่างที่ต้องการอธิบายเสริม  –> “The 1972 Beetle Volkswagen and Model 2015 is much alike by using its STYLE to differentiate themselves and so we are”

จะสังเกตเห็นได้ว่าในการ์ดหนึ่งแผ่น เราโน้ตไว้เฉพาะหัวข้อ ประโยคขึ้นต้น และสิ่งสำคัญที่ผู้นำเสนออาจอยากพรีเซ็นท์เพิ่มเติม ซึ่งเราจะต้องเข้าใจในสิ่งพูดเป็นอย่างดี เราจึงจะสามารถอธิบายต่อเป็นภาษาอังกฤษได้ หลายคนปริ้นท์เนื้อหาทั้งหมดพูด แล้วอ่านตาม ซึ่งนั่นไม่ใช่การพรีเซ็นท์งานที่ดีแต่เป็นการอ่านให้ฟังมากกว่า หรือหลาย ๆ ครั้งเราจะเห็นคนมักปริ้นท์ Hand out จาก Power Point แล้วจดโน้ตสิ่งพูดไว้ข้าง ๆ ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีที่ฉลาดและง่าย แต่การถือกระดาษ A4 เดินไปเดินมาอาจดูเป็นการนำเสนอที่ไม่ Professional สักเท่าไหร่นัก การตัดย่อยเป็นการ์ดอาจเป็นวิธีที่ดีกว่า

การนำเสนองานนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้พรีเซ็นท์งานจะต้องมีนอกเหนือจากข้อมูลที่แน่นและเพียบพร้อมแล้ว ผู้นำเสนอจะต้องพูดด้วยความมั่นใจ เสียงดังฟังชัด ไม่พูดอู้อี้ในลำคอ คำแต่ละคำให้ออกมาให้ชัด ไม่รัวรวน รวมถึงการสบตาผู้ฟังทั่วทั้งห้องมักจะได้รับความสนใจจากผู้ฟังมากกว่าผู้ที่ก้มหน้าก้มตาอ่านโพย การฝึกพูดให้ช้าแต่ชัดในเสียงที่ดัง ถึงแม้ผู้พูดอาจไม่ได้มีความรู้ในภาษาอังกฤษที่แตกฉานนัก ก็สามารถประสบความสำเร็จในการพรีเซ็นท์งานได้ มากกว่าคนที่พูดภาษาอังกฤษเก่ง แต่วกวนจับประเด็นเนื้อหาได้ยากเลยด้วยซ้ำไป ดังนั้นหากรู้ว่าเราไม่ได้เก่งภาษามาก ก็ขอให้เตรียมพร้อม เพื่อตอบได้อย่างฉะฉาน ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังได้มากเลยทีเดียว