8 ปัญหาเพลียใจ ต่อเน็ตไม่ได้ ทำยังไงดี!

8 ปัญหาเพลียใจ ต่อเน็ตไม่ได้ ทำยังไงดี!


ปัญหาที่ 1. ลืมเปิด Wi-Fi ลืมเปิด Wi-Fi เป็นปัญหาหลักที่จะเจอบ่อยๆ ดังนั้นเราควรเช็กให้ดีๆก่อนจะใช้งาน 
เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือขอความช่วยเหลือจากแผนกไอที

ปัญหาที่ 2. Forget Wi-Fi เวลาอยู่ที่ทำงานเราสามารถต่อ Wi-Fi ใช้งานได้เป็นปกติ แต่พอเปลี่ยนที่มาต่อ Wi-Fi นอกสถานที่กลับมีปัญหาต่อ Wi-Fi ไม่ได้ โดยรหัสผ่านที่ใส่ถูกต้องทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังต่อไม่ได้ ปัญหานี้นั้นมาจากทั้งทางฝั่ง Notebook หรือมือถือของเรานั่นเอง

วิธีแก้นั้นง่ายมาก ไปที่เมนูของ Wi-Fi ในส่วนที่แสดง Wi-Fi ทั้งหมดที่ Computer หรือมือถือของเราคลิกเลือกไปยัง Wi-Fi ที่เรามีปัญหาต่อไม่ได้ แล้วคลิกขวาที่ชื่อของ Wi-Fi นั้น แล้วคลิกเลือก Forget รอสักครู่ จากนั้นก็กดค้นหาสัญญาณ Wi-Fi ใหม่ แล้วต่อใหม่อีกครั้ง เพียงเท่านี้เราก็จะใช้งานได้ปกติแล้ว

ปัญหาที่ 3.ใส่รหัส Wi-Fi ผิด รหัสผ่านของ Wi-Fi อาจจะมีตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรผสมกับตัวเลข ดังนั้นแล้วเวลาที่เราเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ก็อาจจะเป็นเพราะตัวอักษรพิมพ์เล็กเป็นพิมพ์ใหญ่ อย่างเช่น เลขศูนย์ (0) กับ ตัวโอ (o) หรือ ตัวแอลเล็ก (l) กับ ตัวไอใหญ่ (I) เป็นต้น ดังนั้นเราต้องตรวจสอบให้ดีๆ

ปัญหาที่ 4.Driver ไม่ตรงรุ่น หรือตรงรุ่นแต่ผิด Version Computer นั้นมี Driver ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi เฉพาะรุ่นของอุปกรณ์ ที่เราจะต้องทำการติดตั้งเพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อ Wi-Fi ดังนั้นเราควรจะดูว่าอุปกรณ์ของเรานั้นต้องใช้ Driver Version ไหน เพื่อให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปัญหาที่ 5.IP Address โดน FIX สำหรับเรื่อง IP Address โดน FIX จะเป็นกับ Computer/Notebook ของบริษัทหรือองค์กร เพื่อความเป็นระเบียบในการใช้อินเทอร์เน็ตในองค์กร ฝ่ายไอทีก็อาจจะทำการ FIX หมายเลข IP Address หรือ DNS Server เอาไว้ ทำให้เมื่อนำ Notebook เครื่องนั้นไปใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าที่ใดก็ตาม เวลาเราจะเชื่อมต่อ Wi-Fi จะไม่สามารถเชื่อมต่อได้ 

วิธีแก้ไข เข้าไปเช็กการตั้งค่า IP Address หรือ DNS Server ถ้าถูก FIX ไว้เราสามารถดำเนินการลบออกแล้วตั้งเป็นค่า Auto ได้เลย เท่านี้ก็จะใช้งานได้แล้ว แต่ก่อนที่เราจะแก้ไขเราต้องถามแผนกไอทีก่อนว่า การที่ตั้งค่าแบบ FIX นั้นมีข้อกำหนดอะไรหรือไม่ แก้ไขได้หรือไม่ก่อนนะทุกคน

ปัญหาที่ 6.IP Address ชนกัน ปัญหา IP Address ชนกันนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ถ้าเกิดขึ้นก็จะทำให้เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ ซึ่งหลังจากเราเชื่อมต่อ Wi-Fi เสร็จสิ้น ระบบจะแจ้งขึ้นมาทันทีว่า “IP Address Conflict“ 

วิธีการแก้ไขคือการเปลี่ยนหมายเลข IP Address ของเราใหม่นั่นเอง โดยเบื้องต้นอาจจะแก้ไขโดยการรีสตาร์ท Computer สักรอบหนึ่ง หรือเปิด-ปิด Wi-Fi ใหม่สักรอบแล้วทำการเชื่อมต่อใหม่ อีกครั้งว่าได้หรือไม่ หากยังไม่ได้จะต้องแก้ไข IP Address โดยเราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ไอที ประจำองค์กรให้มาแก้ไขให้เราได้เลย

ปัญหาที่ 7.Router Wi-Fi ช่องสัญญาณเต็มก็อาจเป็นไปได้ ปกติแล้ว Router ตัวหนึ่งจะรองรับการต่อ Wi-Fi กับอุปกรณ์อื่นได้เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ก็มีโอกาสที่ช่องสัญญาณจะเต็มได้เหมือนกัน ทั้งนี้การแก้ไขเบื้องต้นลองปรับตั้งค่า Router Wi-Fi ใหม่ก่อน หากยังไม่ดีขึ้นเพราะใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่จำนวนมาก ก็อาจจะต้องเปลี่ยน Router Wi-Fi ใหม่ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

ปัญหาที่ 8.การตั้งค่า Router ก็อาจมีส่วน สำหรับปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับองค์กร หรือ สถานที่ให้บริการต่างๆเช่น คาเฟ่ ร้านอาหาร โดยจะตั้งค่าแบบ FIX ค่า IP Address ไว้ให้รองรับการเชื่อมต่อได้แบบจำกัดจำนวนเครื่อง เมื่อมีอุปกรณ์เชื่อมต่อกันจนครบจำนวนแล้ว ก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อได้อีก แต่เราสามารถเดินไปแจ้งกับผู้รับผิดชอบหรือทางเจ้าหน้าที่สถานที่ให้บริการได้เลย

สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อ Internet ได้นั้น มีด้วยกันอยู่หลายปัจจัย ที่ยกมา 8 ตัวอย่างนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะพบเจอกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ว่าสาเหตุมาจากอะไร เราเองสามารถที่จะแก้ไขเองได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะศึกษาจาก Internet หนังสือ หรือสอบถามผู้รู้ ก็ล้วนมีประโยชน์กับตัวเราเอง และอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นในอนาคตด้วยเช่นกัน